โอบกอดฉันในสรวงสวรรค์นั้นเถิด
ทางเข้าชานชาลาในวันอาทิตย์ที่อากาศปลอดโปร่งนั้นพลันเปลี่ยนสีสัน ท่ามกลางฝูงชนผู้กำลังรอคอยใครบางคน
รู้สึกว่าวันนี้อยากไปไหนสักแห่ง ไกลแสนไกลสู่สถานที่ซึ่งได้มองเห็นท้องฟ้า
หากโบยบินไปในหมู่เมฆนั้นได้ก็จงโอบกอดฉันในสรวงสวรรค์เธอยังโกรธอยู่หรือเปล่านะแต่ก็อดดื้อรั้นไม่ได้เลยจริง ๆ
หากได้พบเจอกันอีกในสักวันหนี่งก็จงจุมพิตฉันโดยไม่เอ่ยว่านี่คือครั้งสุดท้ายหากพบเจอกันได้เพียงในห้วงฝันก็ขอให้โอบกอดฉัน จนกว่ารุ่งสางจะมาเยือนด้วยเถอะ
เช้าวันจันทร์ที่ตื่นมาพร้อมหยาดน้ำตาฉันเร่งร้อนเตรียมตัว
ฉันยังคงติดอยู่ในห้วงเวลานั้นรอคอยอย่างไร้ความหมายในแดนสุขาวดีณ โมงยามที่ดอกไม้แห่งฤดูร้อนร่วงโรยได้โปรดมารับฉันด้วยรอยยิ้มทีเถอะ
เพราะเธอผู้ช่างไร้เดียงสาเข้าใจผิดขอให้ช่วยหยุดปากคนช่างพูดอย่างฉันเสียทีเราต่างเคยลิ้มรสความเจ็บปวดดังนั้น โปรดจงโอบกอดฉัน และอย่าพร่ำบนใด ๆ
หากได้พบเจอกันอีกในสักวันหนี่งก็จงจุมพิตฉันโดยไม่เอ่ยว่านี่คือครั้งสุดท้ายหากพบเจอกันได้เพียงในห้วงฝันก็ขอให้โอบกอดฉัน จนกว่ารุ่งสางจะมาเยือนด้วยเถอะ
ฉันรู้ดีว่ามันคือความละโมบแต่ก็ขอให้จุมพิตฉันโดยไม่เอ่ยว่านี่คือครั้งสุดท้ายหากพบเจอกันได้เพียงในห้วงฝันดวงดาวที่ล่องลอยอยู่นั้น ก็อย่าเลือนลับไปเลย